การนำน้ำหมัก น้ำสกัด ชีวภาพถั่วเหลือง (บำรุงต้น ดอกและผล) ไปใช้
ใช้กับพืชผัก ไม้ผล ได้ทุกระยะการเจริญเติบโต ฉีดพ่นทางใบหรือลดลงดินรอบบริเวณโคนต้น อัตรา 30-50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 5-7 วัน
Search Results for: ตะไคร้
”สูตรบำรุงต้น” วิธีการทำน้ำหมัก น้ำสกัด ชีวภาพปลาสด หรือหอยเชอรี่
ใช้กับพืชผัก และไม้ผล บำรุงต้นก่อนออกดอกฉีดพ่นทางใบ หรือดลลงดินรอบบริเวณโคนต้น อัตรา 30-50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 5-7 วัน
วิธีการทำน้ำหมัก น้ำสกัด ชีวภาพ สูตร 4 เหง้ากล้วย (บำรุงผลและดอก)
ใชักับผักสด ผักกินผล พืชไร่ ผลไม้ ในระยยออกดอกและติดผล และใช้กับข้าวอายะ 15 วัน จนถึงระยะออกรวง ฉีดพ่นทางใบ อัตรา 30-50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 5-7 วัน
วิธีการทำน้ำหมัก น้ำสกัด ชีวภาพ สูตร 3 (บำรุงผลและดอก)
น้ำสกัดชีวภาพ เป็นสารละลายสีน้ำตาลข้นที่ได้จากการย่อยสลายของเซลล์พืช หรือเซลล์สัตว์โดยผ่านกระบวนการหมักของจุลินทรีย์ที่ต้องการออกซิเจน และไม่ต้องการออกซิเจน ด้วยการเติมกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทราย ให้เป็นแหล่งพลังงานของจุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่ย่อยสลาย ซึ่งมีจุลินทรีย์ในกลุ่มแบคทีเรีย กลุ่มเชื้อรา และกลุ่มยีสต์ ในน้ำสกัดชีวภาพที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายสมบูรณ์แล้ว
วิธีการทำน้ำหมัก น้ำสกัด ชีวภาพ สูตร 2 (บำรุงดอกและผล)
น้ำสกัดชีวภาพ เป็นสารละลายสีน้ำตาลข้นที่ได้จากการย่อยสลายของเซลล์พืช หรือเซลล์สัตว์โดยผ่านกระบวนการหมักของจุลินทรีย์ที่ต้องการออกซิเจน และไม่ต้องการออกซิเจน ด้วยการเติมกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทราย ให้เป็นแหล่งพลังงานของจุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่ย่อยสลาย ซึ่งมีจุลินทรีย์ในกลุ่มแบคทีเรีย กลุ่มเชื้อรา และกลุ่มยีสต์ ในน้ำสกัดชีวภาพที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายสมบูรณ์แล้ว
วิธีการทำน้ำหมัก น้ำสกัด ชีวภาพ สูตร 1 (บำรุงต้น)
น้ำสกัดชีวภาพ เป็นสารละลายสีน้ำตาลข้นที่ได้จากการย่อยสลายของเซลล์พืช หรือเซลล์สัตว์โดยผ่านกระบวนการหมักของจุลินทรีย์ที่ต้องการออกซิเจน และไม่ต้องการออกซิเจน ด้วยการเติมกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทราย ให้เป็นแหล่งพลังงานของจุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่ย่อยสลาย ซึ่งมีจุลินทรีย์ในกลุ่มแบคทีเรีย กลุ่มเชื้อรา และกลุ่มยีสต์
ทำเกษตรผสมผสาน แบบพอเพียง 1 ไร่ ทำเงินได้หลักแสนต่อปี
สวัสดีครับ วันนี้เกษตร นานา จะพาไปดูแนวทาง เกษตรพอเพียง 1 ไร่ สร้างเงินได้หลักแสนต่อปี หลายคนยังคิดว่า ไม่ได้แน่นอน และ ยังมีข้อสงสัยหลายอย่าง แต่เราจะขอ นำตัวอย่าง คนที่ทำได้จริงมาให้ชมกัน มาดูกันว่ามีแนวทางอย่างไรบ้าง