แชร์ - ส่งบทความให้เพื่อน

เทคนิคการดูแลเบาะรถยนต์ ให้ใช้ได้นาน สวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ

รถยนต์ถือว่าเป็นพาหนะที่ช่วยทำให้การดำเนินชีวิตดูง่ายขึ้น เมื่อใช้ไปสักระยะก็ต้องมีการบำรุงรักษาตามกาลเวลาทั้งเครื่องยนต์และอุปกรณ์ภายในภายนอกให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เบาะรถยนต์ก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นส่วนหนึ่งของรถยนต์ที่ต้องบำรุงดูแลรักษา วันนี้เราจึงมีเทคนิคการดูแลเบาะรถยนต์มาฝากค่ะ

1. ใช้น้ำยาเคลือบเบาะเท่าที่จำเป็น เพราะว่าน้ำยาจะเข้าไปฝั่งอยู่ภายในทำให้หนังนุ่มดูเหมือนใหม่ แต่เมื่อใดที่สารดังกล่าวเสื่อม จะมีความหนืดสูง ซึ่งจะทำให้หนังแข็งขึ้น ทำให้ต้องทาซ้ำใหม่บ่อยๆ เพื่อให้กลับมานิ่มเหมือนเดิม

2. ทดสอบน้ำยาขจัดคราบก่อนใช้ คงไม่มีใครต้องการให้น้ำยาขจัดคราบทำลายเบาะหนังของตนเอง ดังนั้นจึงต้องทดสอบบนจุดที่ไม่สะดุดตาให้มั่นใจก่อนใช้

3. ไม่ควรให้เบาะถูกแสงแดดนานๆ เพราะจะทำให้หนังกรอบได้เร็วกว่าปกติ อันเนื่องมาจากรังสี UV

4. ปรับสภาพคราบแข็งบนเบาะหนัง สำหรับคราบแข็งบนเบาะหนังนั้น ให้ปรับสภาพหนังด้วยน้ำยาปรับสภาพหนังเสียก่อน แล้วค่อยใช้น้ำยาขจัดคราบทาตรงจุดที่เกิดคราบและถูให้มันซึมเข้าแผ่นหนัง ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาทีแล้วค่อยเช็ดน้ำยาขจัดคราบออก

5. ใช้ Vaseline หรือเบบี้โลชั่น ใช้แทนการใช้น้ำยาเคลือบ ทาบางๆ ก็ช่วยได้เหมือนกัน เพียงอาจจะต้องทาบ่อยๆ เพราะเคลือบแค่ชั้นผิวนอกอาจหลุดง่าย แต่ก็ราคาถูก หาง่าย และไม่เป็นพิษเป็นภัยกับเบาะรถยนต์

6. พยายามอย่าโดนน้ำหรือความชื้น เพราะหนังแท้มีคุณสมบัติซึมน้ำได้พอสมควร และที่สำคัญเมื่อหนังเกิดความชื้นจะทำให้เกิดกลิ่นอับจากแบคทีเรียที่ฝังอยู่

เบาะผ้า เบาะกำมะยี่
1. ใช้ลูกกลิ้งขจัดขน ลูกกลิ้งขจัดขนนั้นใช้กระดาษกาวในการดึงบรรดาเศษขน เส้นผม เศษขนมต่างๆ ใช้มันกลิ้งไปทั่วทั้งเบาะนั่งเพื่อเอาเศษขนที่ยากแก่การเข้าถึงออกมาจากเบาะ เปลี่ยนกระดาษกาวบ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามันยังเหนียวพอจะให้พวกเศษขนติดมันมา

2. ใช้มือ หรือไม้ ตีไปที่เบาะผ้า เบาะกำมะหยี่เบาๆ เพื่อให้ฝุ่นละอองที่ฝังอยู่ในเบาะลอยขึ้นมาด้านบน จากนั้นจึงใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดสิ่งสกปรกเหล่านั้น

3. สำหรับรอยเปื้อนคราบต่างๆ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเปล่าหมาดๆ มาลูบที่เบาะ (ออกแรงกดพอประมาณ) เสร็จแล้วใช้น้ำยาซักเบาะ หรือถ้าไม่มีให้ใช้น้ำยาซักผ้าแทน ขัดถูให้สะอาด และถ้ามีสเปรย์กำจัดเชื้อโรค ก็สามารถฉีดพ่นลงไปได้ด้วยเช่นกัน
– กำจัดคราบอาเจียน ให้ทำความสะอาดทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้มันสิ่งที่อาเจียนไปซึมเข้าเบาะ เช็ดเศษอาเจียนและละลายคราบให้จางลงด้วยน้ำเย็น ทำความสะอาดบริเวณนั้นด้วยสบู่ผสมน้ำอุ่น แล้วทำให้คราบมีสภาพเป็นกลางโดยการเทคลับโซดาลงบนผืนผ้า นำไปซับตรงรอยคราบอีกทางเลือกหนึ่ง ผสมผงฟูกับน้ำมาเช็ด ผงฟูจะช่วยดูดกลิ่นเหม็น

– คราบเลือด คราบเลือดอาจเป็นคราบที่ขจัดออกได้ยาก อย่าใช้น้ำอุ่นหรือสบู่เพราะมันจะยิ่งทำให้คราบฝังตัว ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นมาซับตรงคราบเลือด จุ่มผ้าในน้ำเย็นนำมาซับไปเรื่อยๆ จนกว่าคราบจะจาง

– คราบกาแฟ ถ้าเกิดทำกาแฟหก ละลายกาแฟให้จางลงด้วยน้ำเย็นและซับด้วยกระดาษทิชชู ฉีดน้ำยาเช็ดกระจกและทิ้งไว้ราว 5 นาที ใช้กระดาษทิชชูซับอีกครั้งเพื่อลดคราบให้จางลง ซับคราบทุกครั้ง อย่าใช้วิธีถู จะได้ไม่ถูมันจนเลอะเบาะหนังเป็นวงกว้างขึ้น ถ้าคราบกาแฟยังเป็นรอยให้เห็น ให้ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่นมาถูหนังบริเวณนั้น ใช้กระดาษทิชชูซับอีกหน แล้วใช้ที่เป่าผมเป่าให้แห้ง ให้ถือที่เป่าผมห่างจากจุดนั้นสักหลายนิ้วเพื่อจะไม่ทำลายเบาะหนัง

4. ใช้แปรงสีฟันทำความสะอาดตะเข็บ เบาะที่นั่งจะมีส่วนที่ถูกเย็บเข้าด้วยกัน เศษดินและฝุ่นผงจะไปสุมอยู่บริเวณนี้ได้ง่ายและยากจะใช้ผ้าหรือเครื่องดูดฝุ่นเอามันออก ใช้แปรงสีฟันในบริเวณเหล่านี้ ถูมันเบาๆ ด้วยน้ำยาทำความสะอาด

เบาะรถยนต์ถือว่าเป็นที่สะสมฝุ่นและมีคราบสกปรกได้ง่าย ซึ่งเบาะรถยนต์เป็นมีทั้งแบบหนัง และแบบผ้า และกำมะยี่ การดูแลรักษาอาจจะแตกต่างกันไป แต่การดูแลให้สะอาดและน่าใช้จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่าลืมนำเทคนิคที่เอามาฝากไปใช้ดูแลเบาะรถยนต์ของคุณกันนะคะ