อ่านแล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป “รอยตะปูของพ่อ” ได้โปรด…!!! สละเวลาอ่านสักนิด
มีเด็กน้อยคนหนึ่งที่สีหน้าแสดงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก พ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขา 1 ถุง และบอกกับเขาว่า “ทุกครั้งที่เขารู้สึกโมโหหรือโกรธใครสักคน ให้ตอกตะปู 1 ตัวเข้าไปกับรั้วที่หลังบ้าน”
วันแรกผ่านไป เด็กน้อยคนนั้นตอกตะปูเขาไปที่รั้วหลังบ้านถึง 37 ตัว และก็ค่อย ๆ ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ ในแต่ละวันที่ผ่านไป ก็ลดจำนวนลง น้อยลง น้อยลง
เพราะเขารู้สึกว่า การรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองให้สงบ ง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ และแล้วเด็กน้อยพบว่า หลังจากที่เขาสามารถควบคุมตนเองได้ดีขึ้นใจเย็นมากขึ้น เขาจึงเข้าไปพบกับพ่อ และบอกกับพ่อของเขาว่าเขาสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้แล้ว ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็นมา
พ่อยิ้ม และบอกกับลูกชายของเขาว่า ” ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเจ้าต้องพิสูจน์ให้พ่อรู้ โดยทุกๆ ครั้งที่เขาสามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของตนเองได้ ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้าน 1 ตัว ทุกครั้ง ” วันแล้ววันเล่า เด็กน้อยคนนั้นก็ค่อยๆ ถอนตะปูออก ทีละตัว จาก 1 เป็น 2….จาก 2 เป็น 3 จนในที่สุดตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออก จนหมด
เด็กน้อยดีใจมากรีบวิ่งไปบอกกับพ่อเขาว่า ” ผมทำได้ ในที่สุดผมก็ทำจนสำเร็จ !! “
พ่อไม่ได้พูดอะไร แต่จูงมือลูกของเขาออกไปที่รั้วหลังบ้าน และบอกกับลูกว่า ” ทำได้ดีมาก ลูกพ่อ และเจ้าลองมองกลับไปที่รั้วเหล่านั้นสิเจ้าเห็นหรือไม่ว่า รั้วนั้นมันไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือน..กับที่มันเคยเป็น ”
จำไว้นะลูก…
เมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์ สิ่งนั้นมันจะเกิดเป็นรอยแผล เหมือนกับการเอามีดที่แหลมคมไปแทงใครสักคน ต่อให้ใช้คำพูด ว่า “ขอโทษ” สักกี่หน ก็ไม่อาจลบรอยแผลที่เกิดขึ้นกับเขาคนนั้นได้
แต่…ลูกจงฝึกใช้คำว่า ” ขอโทษ ” ไว้เสมอ ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เราหรือไม่ก็ตาม และ จงจำไว้ให้ดีว่า รอยร้าวที่เกิดขึ้นกับเขา อาจจะไม่มีวันลบเลือนมันได้ตลอดไป ไม่ว่าเราจะไปเพิ่มรอยตะปูให้ใคร หรือ ใครจะมาเพิ่มรอยตะปูให้เรา ( ทั้งที่ตั้งใจทำ และ แบบที่อารมณ์พาไป ) จงคิดทบทวนให้ดี
มีอยู่ 3 สิ่งในโลกใบนี้ที่เมื่อผ่านมาแล้วก็จะไม่สามารถเรียกมันกลับคืนมาได้ คือ… “คำพูด” “เวลา” และ “โอกาส”
“เพื่อนเปรียบเสมือน อัญมณีอันมีค่าที่หายาก เป็นคนที่ทำให้เรายิ้ม เป็นคนที่คอยให้กำลังใจ และยินดีเมื่อเราพบกับความสำเร็จ เป็นคนที่คอยปลอบใจเราเมื่อยามเศร้า ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา และจริงใจกับเราเสมอ … แสดงให้เขาเห็น ว่าเราห่วงใยเขามากแค่ไหน “
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ให้รู้ทันความโกรธให้เร็วที่สุด ทันที..ที่สติรู้ทัน ให้รีบปล่อยวางความโกรธ อย่างน้อยมันจะหยุดการตอกตะปูใส่คนอื่น วางความยึดมั่นในตัวเองว่าเรานั้นถูก เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาที่ดีกว่า ดีกว่าปล่อยให้ตัวเราเองยึดติดว่าเราถูก เราดี จนฐิทิย้อนกลับมาทำลายตัวเอง
หวังว่านิทานนี้คงช่วยให้พวกเราอยู่ร่วมกัน ทำงาน ร่วมกัน คบกัน ด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันขึ้นเรื่อยๆ ตลอดไป…..
ขอขอบคุณเรื่องดีๆ จากหนังสือ “เข็มทิศชีวิต” ของคุณ ฐิตินาถ ณ.พัทลุง