10 วิธีประหยัดค่าไฟ แบบที่คาดไม่ถึง

เรามีไฟฟ้าไว้ใช้กันเกือบแทบทุกบ้าน ยิ่งในช่วงอากาศร้อนๆ ยิ่งใช้กันมาก หลายครั้งใช้จนลืมตัวว่าไฟฟ้าไม่ได้ให้ใช้ฟรีๆ พอรู้ตัวอีกทีก็คือ เห็นบิลค่าไปมาที่บ้าน ทำเอาเหงื่อตกไปตามๆ กัน

ยิ่งตอนนี้จำนวนหน่วยต่อค่าไฟฟ้าขึ้นอีกหลายเท่าด้วยแล้ว เรายิ่งต้องคอยประหยัดค่าไฟกัน บางบ้านถึงกับทนร้อนยอมไม่เปิดแอร์ แต่เราจะทนทรมานตัวเองแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน เรามาลอง 10 วิธีการประหยัดไฟฟ้าเหล่านี้กันก่อนดีไหม รับรองประหยัดค่าไฟไปได้มากเลยล่ะ

1. เลิกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น
ไม่ว่าแปรงสีฟั นไฟฟ้า มีโกนหนวดไฟฟ้า หรืออะไรก็ตามที่มันมีอุปกรณ์ที่มาทดแทนกันได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า เช่น แปรงสีฟั นธรรมดา มีดโกนหนวดธรรมดา เป็นต้น หลายอย่างเลยที่เราต้องชาร์จแบตเตอรรี่แล้วนำมาใช้ อุปกรณ์เหล่านี้แหละที่ทำให้เราเสียค่าไฟฟ้าไปโดยใช่เหตุ

2. ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน
มีอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านอยู่หลายชิ้นเลย ที่เราไม่เคยถอดปลั๊กออกแม้แต่ครั้งเดียว ใช้เพียงวิธีการปิดสวิตซ์ไฟเท่านั้น แต่การปิดสวิตซ์ไฟเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ทำให้เกิดการตัดของกระแสไฟฟ้า เพราะตราบใดที่ปลั๊กยังเสียบอยู่ กระแสไฟฟ้าก็จะวิ่งวนอยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้น ดังนั้นเมื่อเราเลิกใช้งานก็ควรปิดสวิตซ์และดึงปลั๊กออกทุกครั้ง จะเป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าได้อย่างดี

3. ใช้เตารีดรีดครั้งละมากๆ
การที่เตารีดต้องสตาร์ทตัวมันให้ร้อน เป็นช่วงเวลาที่กินไฟมากกว่าการรีดผ้าในเวลานานๆ หากเรารีดวันละชุด 2 ชุด จะทำให้การสตาร์ทไฟของเตารีดนั้นต้องทำบ่อยครั้ง เป็นปัญหาทำให้เปลืองไฟมาก ดังนั้นเราควรตั้งเตารีดให้ร้อนเพียงแค่ครั้งเดียว และใช้เวลากับการรีดผ้าครั้งละมากๆหน่อย จะเป็นการประหยัดไฟฟ้าได้ดี เพราะเตารีดนี่ก็จัดว่าเป็นตัวกินไฟมากอีกชิ้นหนึ่ง

4. การเปิดใช้เครื่องดูดฝุ่น
หากบางบ้านไม่ได้มีฝุ่นมาก หรือขนของสัตว์เลี้ยงที่ต้องคอยดูแลทำความสะอาดทุกวัน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดทุกวันก็ได้ ใช้วิธีกวาดถูบ้านตามปกติ น่าจะดีกว่า เป็นการประหยัดค่าไฟไปในตัวด้วย จากที่เคยใช้เครื่องดูดฝุ่นทุกวัน ก็อาจเปลี่ยนมาใช้อาทิตย์ละครั้ง เพื่อความสะอาดมากยิ่งขึ้น กว่าการกวาดถูด้วยมืออย่างเดียว

5. วิธีเปิดแอร์อย่างประหยัด
เป็นตัวดับร้อนได้ดีอย่างยิ่งเลย และปัจจุบันทุกๆบ้านก็มี บางบ้านมีมากกว่า 2 ตัวด้วยซ้ำ การใช้แอร์อย่างประหยัดนั้น ทุกๆครั้งก่อนการเปิดให้แอร์ทำงาน เราควรเปิดหน้าต่างในห้องทุกบาน และนำพัดลมมาเป่าไล่เอาความร้อนออกไป จากนั้นก็ปิดหน้าต่างให้สนิท แล้วทำการเปิดแอร์ การทำวิธีนี้จะช่วยพัดเอาอากาศอบอ้าวออกไปจากห้องก่อน เมื่อเปิดแอร์ใช้จะได้ไม่ต้องทำงานหนักมากนัก อาจจะใช้พัดลมช่วยเป่าให้ความเย็นแอร์กระจายไปทั่วทั้งห้องเลยก็ได้ รับรองว่าแอร์ไม่ต้องทำงานหนัก และยังประหยัดค่าไฟได้ดี

6. จัดระเบียบตู้เย็น
ไม่ว่าจะเป็นของอะไรก็ตาม หากเราต้องการป้องกันไม่ให้บูดหรือเสีย เราจะนำมาแช่ในตู้เย็นทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ของที่เราทานไม่หมด เราก็จะเอาเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อจะได้นำมาทานต่อ หลายครั้งหลายคราที่เราลืมอาหารเหล่านี้แช่ไว้คาตู้เย็น จนเกิดการเน่าเสีย กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และกลายเป็นแบคทีเรียได้ในที่สุด สิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้เราเสียค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมไปโดยใช่เหตุ รวมถึงการแช่อาหาร เครื่องดื่มไว้ในตู้เย็นในปริมาณมากๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ตู้เย็นใช้ไฟสำหรับทำความเย็นมากขึ้นอีกด้วย

7. ใช้หลอกฟลูออเรสเซนต์แทนหลอดไส้
แม้หลอดฟลูออเรสเซนต์จะมีราคาสูงมากกว่าหลอดไฟตามปกติ แต่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก ไม่เสียง่ายเหมือนพวกหลอดไส้ หรือหลอดไฟที่ใช้ตัวสตาร์ทเตอร์และบัลลาสต์ อีกทั้งยังใช้ไฟน้อยกว่าหลอดชนิดอื่นถึง 75 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้การใช้ไฟฟ้าลดลงไปได้มาก

8. ติดตั้งเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว
อาจเป็นการลงทุนที่มากเกินไปหน่อย แต่ผลที่ได้ถือได้ว่าคุ้มค่มาก โดยเฉพาะคนที่ขี้ลืม ตัวเซ็นต์เซอร์นี้จะทำหน้าที่จับความเคลื่อนไหวภายในบ้าน หากมันไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวได้ในระยะเวลาหนึ่ง มันจะทำการสั่งปิดไฟไปโดยอัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกมาก แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟได้ด้วย

9. ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น
ลองมาคิดดูว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าชิ้นไหนบ้างที่เราใช้บ่อยเกินความจำเป็น เริ่มจาก หม้อทอด กระทะไฟฟ้า เครื่องปั่น เตาอบ และไมโครเวฟ เครื่องอุปกรณ์เหล่านี้จัดได้ว่าเป็นตัวกินไฟมาก หากเราเลี่ยงที่จะใช้ได้ก็ควรเลี่ยงซะ แล้วหาอย่างอื่นมาทดแทน เช่น พวกเตาแก๊สทำอาหาร เป็นต้น

10. ปิดเมื่อไม่ได้ใช้งาน
ข้อนี้เราพูดถึงการใช้ไฟส่องสว่างภายในบ้าน เมื่อตกเวลากลางคืนบางบ้านก็เปิดไฟเสียทั่วบ้าน ซึ่งบางดวงไม่ได้มีความจำเป็นในการใช้งานเลย ดังนั้นเราควรเปิดเฉพาะไฟที่เราใช้งานเท่านั้นดวงไหนไม่ได้ใช้ก็ให้ปิดเสีย รับรองว่าสิ้นเดือนมาค่าไฟลดอย่างแน่นอน

การประหยัดไฟฟ้าไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง เราควรช่วยกันประหยัดไฟฟ้าให้ได้มากๆ เพื่อลดการทำลายทรัพยา กรธรรมชาติที่นำมาเป็นตัวช่วยในการผลิตไฟฟ้า ดังนั้นนอกจากจะช่วยลดค่าไฟฟ้าเบาเงินในกระเป๋าแล้ว ยังช่วยทำให้บรรย า กาศในโลกน่าอยู่ขึ้นอีกด้วย