เค้าทำได้อย่างไร ปลูกผักขาย โกยเงินเดือนละครึ่งล้าน 3 เดือนคืนทุน 5 แสน จากอดีตหนุ่มออฟฟิศ

แชร์ - ส่งบทความให้เพื่อน

ปลูกผักขาย โกยเงินเดือนละครึ่งล้าน 3 เดือนคืนทุน 5 แสน จากอดีตหนุ่มออฟฟิศ

การมีธุรกิจ บ้าน รถ ที่ดินเป็นของตนเองตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นหนึ่งในเป้าหมายของคนรุ่นใหม่ ยิ่งในยุคปัจจุบันที่ช่องทาง “ออนไลน์” กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญช่วยให้ทุกความฝันกลายเป็นจริงและสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ จึงมีธุรกิจ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย รวมไปถึง นายเอนก ขยันขาย หรือ ตาร์

จากลูกชาวนา อดีตมนุษย์เงินเดือน ผันตัวเองมาทำเกษตรกรเต็มตัว เป็นนักปรับปรุงพันธุ์สลัด และผลิตเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์ และ “เจ้าของฟาร์มผัก ดอกไม้อินทรีย์” อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ใช้ช่องทางออนไลน์สร้างรายได้เดือนละเกือบครึ่งล้าน ทำความฝันตัวเองให้เป็นจริง มีบ้าน รถ ที่ดินได้ในวัยเพียง 35 ปี ความสำเร็จของนายเอนก ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าการทำ “ธุรกิจออนไลน์” เป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จได้จริง ถ้าทุกคนเริ่มลงมือทำ และกล้าที่จะก้าวเดินตามฝันของตัวเองอย่างมุ่งมั่น

เลือกขัดใจพ่อ ลาออกงานประจำ สร้างฝัน “เกษตรกร”
“พ่อบอกส่งเรียนจบปริญญาตรี ม.แม่โจ้ ทำไมมาเป็นเกษตร ไปเป็นอาจารย์ได้เงินเดือน 2 หมื่นกว่า แต่ผมบอกพ่อว่า ผมมีความสุขแบบนี้ และจะทำเงินเดือนเยอะๆ ให้พ่อดู”

นายเอนก เปิดใจกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ เล่าถึงเรื่องราวชีวิตที่กว่าจะประสบความสำเร็จเป็นนักปรับปรุงพันธุ์สลัด และผลิตเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์ และ “เจ้าของฟาร์มผัก ดอกไม้อินทรีย์” เช่นทุกวันนี้ สิ่งสำคัญคือความมุ่งมั่น เหมือนดังที่เขาได้พูดยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเอง เมื่อบอกตอนเรียนจบ ป.ตรี ขอที่ 1 ไร่เพื่อปลูกผักยังชีพ แต่พ่อไม่ให้เพราะอยากให้รับราชการ “ครู”

นายเอนกจึงตัดสินใจมาทำงานใน กทม. ด้านการพัฒนาพันธ์พืช แต่ทำอยู่ 3 ปี ตัดสินใจลาออกกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ จ.เชียงใหม่ ในระหว่างนี้ก็ได้ทำงานเกี่ยวกับโครงการวิจัย ปรับปรุงเมล็ดพันธุ์พืชใน ม.แม่โจ้ พร้อมกับเรียนปริญญาโท เอกด้านปรับปรุงพันธุ์พืชและเมล็ดพันธุ์อินทรีย์

ไม่นานต่อมาในเดือน ธ.ค. ปี 59 นายเอนก ซึ่งขณะนั้นเรียน จบปริญญาตรี สาขาพืชผัก เติบโตในครอบครัวลูกชาวนา พ่อมีอาชีพเกษตรกร แม่มีอาชีพค้าขาย อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง และอยากเป็นนักปรับปรุงพันธุ์สลัด และผลิตเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์อย่างเต็มตัวตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่เรียนจบ ป.ตรี ก็เริ่มลงมือสร้างฟาร์มผัก ดอกไม้อินทรีย์ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ด้วยพื้นที่แค่ 1 งาน และลูกน้อง 1 คน

การเป็น “เกษตรกร” นายเอนกเน้นย้ำ คือ อาชีพดึกดำบรรพ์ หลายคนอยากมาสัมผัส แต่มีน้อยคนที่สัมผัสแล้วจะมุ่งมั่นทำอย่างจริงๆ จังๆ เพราะเป็นงานที่หนัก และเหนื่อย หัวใจของการทำเกษตร ไม่ได้เพียงแค่ “ปลูกแล้วปล่อยให้โต” แต่ต้องดูแลและรักษาจนกว่าจะถึงเวลาจำหน่ายได้ ต้องแก้ไขปัญหารายวันที่ไม่มีอะไรตายตัว และต้องปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมให้ทัน

“ในประเทศไทยยังไม่มีใครทำธุรกิจเมล็ดพันธุ์อินทรีย์อย่างชัดเจน คนมองว่ามันไม่คุ้มทุน เม็ดเงินที่ได้น้อย พอออกงานที่ กทม. กลับมาเชียงใหม่ ได้งานทำวิจัยโครงการเมล็ดพันธุ์ใน ม.แม่โจ้ สักระยะ ผมอยากทำธุรกิจเอง เลยลาออกจากงานที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตอนนั้นพ่อกับแม่ไม่เห็นด้วย กลัวเลี้ยงตัวเองไม่ไหว แต่หลักคิดของผม มีน้อยทำน้อยแต่เน้นคุณภาพ เก่งแล้วค่อยขยาย”

ไม่กลัวอดตาย เพราะใจรัก รุกโซเชียลช่วยแชร์
ในช่วงแรกของการบุกเบิก ยังไม่มีตลาดรองรับมากนัก แต่เพราะใจรัก นายเอนกก็ไม่กลัวอดตาย แม้ต้องเครียดเป็นอาทิตย์ จนไม่พูดจากับใคร เพราะไม่รู้ว่าเมล็ดพันธุ์ที่มีอยู่จะขายให้ใครได้อีก คิดทบทวนหลายๆ ครั้ง จนพบว่าตัวเองนั้นชอบโพสต์สิ่งต่างๆ ในโลกโซเชียล จึงได้แนวคิดขยายตลาดด้วยการลงรูป ลงคลิป เล่าเรื่องราวการปลูกผักด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายในทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเองทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูป โดยใช้ชื่อเดียวกันคือ Anek Kayankhai

โดยมีความเชื่อว่า เมล็ดพันธุ์ดี คนก็จะฟีดแบ็กมาเอง จนมีคนเริ่มสนใจมาซื้อเมล็ดพันธุ์ไปใช้ และบางครั้งก็มีแจกเมล็ดพันธุ์ฟรี กระทั่งเกิดความบังเอิญแจกเมล็ดพันธุ์ฟรีให้กับเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มผักสดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลังเพื่อนนำไปใช้แล้วพอใจ ก็เลิกซื้อเมล็ดพันธุ์จากต่างประเทศ หันมาซื้อกับนายเอนกแทน

“ผมเคยนำเสนอบริษัทต่างๆ แล้วเขาไม่สนใจ ผมก็ใช้โลกออนไลน์นี่แหละทำมา ก็พรีเซนต์ออกไปด้วยแนวคิดปลูกผักยังไงให้คนติดตามเยอะ สอนคนไปเรื่อยๆ วิธีปลูก เพาะกล้า ดูแลยังไง โลกออนไลน์มันไว คนก็แชร์ไปเรื่อยๆ แล้วคนก็มาซื้อเรื่อยๆ บังเอิญแจกเมล็ดพันธุ์ฟรีไปเจอเพื่อนซึ่งทำฟาร์มผักใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เป็นนักผลิตเม็ดพันธุ์เต็มตัว และปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ไปเรื่อยๆ เพื่อจะได้สายพันธุ์ใหม่ๆ ทนโรค ทนแมลงในผักระบบอินทรีย์ ผมทำการเกษตร คือ การตลาดนำการผลิต เดิมขายเมล็ดผักสลัดไม่กี่ชนิด หลังๆ ลูกค้ามักถามว่ามีพริกไหม มะเขือไหม ก็ทยอยทำเรื่อยๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า จากเริ่มต้นสลัด 20 กว่าชนิดจนตอนนี้มีเกือบ 200-300 ชนิด”

จาก 1 งานสู่ 1 ไร่ พลังโซเชียล 3 เดือนคืนเงินยืมพ่อ 5 แสน
เมื่อธุรกิจถูกรู้จักมากขึ้นในโลกออนไลน์ ทำให้เกิความยั่งยืนและเห็นผลอย่างรวดเร็ว มีทั้งลูกค้าประจำ และลูกค้าออนไลน์ เดิมพื้นที่ไร่ 1 งาน มีคนงาน 1 คน ได้เงิน 5,000 บาท ต่อเดือน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมเช่าที่อยู่ นายเอนกก็ขยายพื้นที่เป็น 1 ไร่ ซึ่งได้ขอยืมเงินพ่อ 5 แสนบาทมาซื้อที่ดิน โดยบอกอีก 5-6 เดือนจะชดใช้เงินคืน แต่ด้วยพลังของโลกออนไลน์ ผ่านไปเพียง 3 เดือน นายเอนกก็ชดใช้เงินคืนพ่อได้ทั้งหมด จากนั้นก็เปิดบริษัท แม่โจ้68เมล็ดพันธุ์ จำกัด

นอกจากนายเอนกทำธุรกิจเมล็ดพันธุ์และปรับปรุงพันธุ์พืชแล้ว ยังรับเป็นที่ปรึกษางานด้านผักสดเมล็ดพันธุ์ทั้งเคมีและอินทรีย์ และปลูกผักสดอื่นๆ ในฟาร์มเพื่อบริการลูกค้าที่ต้องการมาศึกษาให้คนที่อยากชมสวนเปิด เข้าชมฟรีไม่เก็บเงิน ทุวันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 8.30-17.00 อีกทั้งยังสร้างเครือข่ายรุ่นน้องในเชียงใหม่ และบ้านเกิด จ.พะเยา ช่วยทำฟาร์มผัก ดอกไม้อินทรีย์จนนายเอนกมีรายได้ที่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายเดือนเกือบล้าน หลังหักค่าใช้จ่ายมีเงินเกือบเดือนละประมาณ 4-5 แสน จากเริ่มต้นมีลูกน้องเพียง 1 คน กลายเป็นทีมร่วมๆ สิบคน

อ่าน :  สรรพคุณ ต้นผงชูรส หรือ เรียกอีกอย่างว่าผักไชยา

“พอคืนเงิน พ่อก็เริ่มสบายใจว่าสิ่งที่ผมตัดสินใจทำอยู่ ประสบความสำเร็จแล้วนะ เพราะตอนเรียนจบปริญญาตรี ผมขอที่ดินพ่อ 1 ไร่ปลูกผัก แต่พ่อไม่ให้เพราะอยากให้ทำงานเป็นครู มันก็ฝังใจมาตลอด ผมเลยพยายามพิสูจน์ตัวเองให้พ่อเห็นว่าที่ดินที่ผมซื้อมามันเติบโตและงอกเงยเรื่อยๆ ผมถือว่าโตไว จากปีแรกเอาเงินเก็บก้อนหนึ่ง มาสร้างห้องที่มีแค่พอนอน ไม่มีกระจก ไม่มีประตู สร้างเพจแล้วในเวลา 3 เดือนมีเงินคืนพ่อ 5 แสน ต่อมาก็ขยับขยายเรื่อยๆ ทยอยสร้างบ้าน ซื้อที่ ซื้อรถ”

สัญญาไม่ทิ้งเกษตรกรไทย แนะเทคนิคสร้างธุรกิจให้สำเร็จในโลกออนไลน์
“ทุกความสุข” ไม่ว่าจะอาชีพอะไรต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ และแรงกาย นายเอนกก็เช่นเดียวกันจากที่ดินป่ารกแสนรก เขาได้เนรมิตให้กลายเป็นผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยคลังอาหารที่ปลอดภัย นอกจากเขาจะเป็นเกษตรกรปรับปรุงสายพันธุ์พืชในกลุ่มผักสลัด และผลิตเมล็ดพันธุ์ เมล็ดอินทรีย์ ในราคาถูกและมีคุณภาพ ยังแบ่งปันความรู้ ให้คำแนะนำปรึกษาคนชอบปลูกผักในทุกๆ เรื่อง ตั้งแต่การปรุงดิน เพราะดินคือหัวใจหลักของการปลูกพืช

ธ.ค. 62 จะครบ 3 ปี กับความสำเร็จทางธุรกิจของนายเอนก นอกจากขอบคุณตัวเองที่เข้มแข็ง มุ่งมั่นแล้ว นายเอนกขอฝากคำขอบคุณผ่านทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ถึงทุกคนที่คอยสนับสนุนให้เขาประสบความสำเร็จ โดยให้สัญญาว่าจะไม่ทิ้งเกษตรกรไทย ตราบที่มีชีวิตจะยังสร้างสรรค์เมล็ดพันธุ์ดีๆ พันธุ์พืชดี และสอนคนปลูกผักทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ พร้อมแนะเทคนิคการสร้างธุรกิจให้สำเร็จในโลกออนไลน์

“ผมไม่มีเทคนิคอะไร มีแต่ใจล้วนๆ และลงมือทำซ้ำๆ จดจำเรียนรู้ ปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลไปเรื่อยๆ แล้วเราจะชำนาญเอง หัวใจของการทำตลาดออนไลน์ คือ ต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคนที่ติดตามเรา ผมเชื่อว่าหลายคนก็ทำได้ถ้าเราลงมือทำและรักในสิ่งที่ทำ ไม่ว่าใครทำธุรกิจอะไรก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ชีวิตที่น่าภูมิใจที่สุด คือการเกิดมาไม่มีสักอย่างแล้วต่อสู้จนตัวเองมีทุกอย่าง” นายเอนกเจ้าของฟาร์มผัก ดอกไม้อินทรีย์ให้แง่คิด

ที่มา : ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/tags/ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์


แชร์ - ส่งบทความให้เพื่อน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง