เผยวิธีปลูกมัลเบอรี่ หรือหม่อน ให้สามารถออกผลได้ตลอดทั้งปี
ต้นมัลเบอร์รี่ หรือ ต้นหม่อน ถือว่าเป็นพืชที่ปลูกง่ายโตเร็ว มีผลไม้ลูกเล็กๆ สีสันสดใส มีรสเปรี้ยวหรือหวาน ที่นับวันได้รับความนิยมในการรับประทาน เพื่อสุขภาพกันมากยิ่งขึ้นและเป็นหนึ่งในของโปรดของใครหลายๆคน อีกทั้งยังมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วย ให้ภูมิร่างกายแข็งแรง ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อไวรัส ต้านเชื้อรา ต้านเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง ป้องกันความเสื่อมของร่างกาย มีใยอาหาร ที่ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น มีวิตามินสูง ช่วยผลาญพลังงานและช่วยระบบฮอร์โมนในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีปลูกต้นมัลเบอร์รี่
1.เลือกพื้นที่ให้เหมาะสมกับการปลูก แดดจัด อากาศร้อนไม่เป็นไร อากาศร้อนออกลูกดี
2.เตรียมต้นมัลเบอร์รี่ที่พร้อมจะปลูก พันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทยก็คือ เชียใหม่60,บุรีรัมย์60,กำแพงแสน84 ซึ่งทั้ง 3 พันธุ์นี้เหมาะสำหรับการปลูก การปลูกควรปลูกหม่อนในช่วงฤดูฝน หรือนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป เพื่อให้ต้นเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
3.ขุดหลุมให้ลึกประมาณ 50 x 50 x 50 เซนติเมตร นำดินที่ขุดขึ้นมาผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหลุมละ 10 กก. ปูนขาว 1 กก.ต่อหลุม และปุ๋ยเคมีสูตร15-15-15 ในอัตรา 250 กรัมต่อหลุม ใส่กลับลงไปเพื่อรองก้นหลุม แล้วนำต้นหม่อนที่เตรียมไว้ลงปลูก กลบดินให้แน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
4.ปลูกเป็นแถวในแปลงพื้นที่สี่เหลี่ยมระยะห่างที่เหมาะสมคือ 4×4 เมตร เผื่อรัศมีทรงพุ่มไว้อย่างน้อย 2 เมตร เพื่อให้กิ่งแผ่รับแสงแดดได้เต็มที่ และยังช่วยให้เก็บผลผลิตได้ง่ายขึ้น
5.นำต้นมัลเบอร์รี่ลงปลูก กลบดินที่เหลือให้แน่นให้ดินพูนจากโคนต้นเล็กน้อย ใช้ไม้ปักข้างหลุมปลูกและผูกยึดไว้กับลำต้นให้แน่น เพื่อป้องกันการหักล้มรดน้ำพอชุ่มอย่างสม่ำเสมอ
การให้น้ำ
ควรให้ในปริมาณที่เพียงพออย่าให้ขาด ในช่วงระยะที่ต้นหม่อนกำลังแตกตาติดดอก ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่ทำการโน้มกิ่งและรูดใบแล้ว หากต้นมัลเบอร์รี่ขาดน้ำมักจะทำให้มีผลขนาดเล็ก หรือผลฝ่อก่อนที่จะสุกได้
การใส่ปุ๋ย
ให้ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกในอัตรา 10 กิโลกรัมต่อต้น ใช้ปูนโดโลไมท์หหรือปูนขาว ตามสภาพของดิน เมื่ออายุของต้นมัลเบอร์รี่เข้าปีที่ 2 สำหรับปุ๋ยเคมี ให้ใช้สูตร 15-15-15 อัตรา 250 กรัมต่อต้น
การบังคับทรงต้น
การปลูกในปีแรกๆ ลำต้นและระบบรากยังเจริญเติบโตไม่มาก อาจจะหักล้มได้ง่าย ดังนั้นจะต้องทำการยึดลำต้นไว้ด้วยไม้ หรือไม้ไผ่ให้แน่น หนา ต้นมัลเบอร์รี่ที่ปลูกจากท่อนพันธุ์ หรือจากกิ่งพันธุ์กิ่งชำชนิดล้างราก หรือชนิดชำถุงโดยตรง เมื่อปลูกเจริญเติบโตได้ประมาณ 6-12 เดือน จะต้องบังคับทรงพุ่มโดยตัดแต่งกิ่งให้เหลือเพียงกิ่งเดียวไว้เป็นต้นตอไว้ โดยมีความสูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร จากพื้นดิน ปล่อยให้หม่อนแตกกิ่งใหม่ หลายๆกิ่งกิ่งที่ไม่สมบูรณ์ให้ตัดทิ้งเพื่อให้ด้านล่างโปร่ง เก็บกิ่งที่สมบูรณ์ไว้ เพื่อง่ายต่อการปฏิบัติดูแลรักษาด้านเขตกรรมต่างๆ เช่น การกำจัดวัชพืช การใส่ปุ๋ย การพรวนดิน การตัดแต่งกิ่งแขนงและการเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น
ศัตรูพืชในแปลงปลูก
“เพลี้ยไฟ” คือ อุปสรรคสำคัญในการปลูกมัลเบอร์รี่ มักเจอปัญหาเพลี้ยไฟระบาดรบกวนในแปลงปลูกมัลเบอร์รี่ในช่วงภาวะอากาศร้อนและมีสภาพแล้งจัด ในระยะนี้หากเจอการระบาดให้ตัดแต่งกิ่งอ่อนไปเผาทำลาย ไม่ต้องกลัวผลผลิตจะลดลง เพราะต้นมัลเบอร์รี่ยิ่งตัดยิ่งแตกกิ่งออกมาเรื่อยๆ เพราะการตัดแต่งกิ่งจะช่วยกระตุ้นให้ต้นมัลเบอร์รี่ผลิดอกออกผลออกมามากกว่าเดิมนั่นเอง
การเก็บเกี่ยว
ในแต่ละต้นจะให้ผลผลิตได้ประมาณ 1.5-3.5 กิโลกรัม หลังจากที่ทำการโน้มกิ่ง ได้ประมาณ 8-12 วัน ดอกหม่อนก็จะแตกออกมาพร้อมใบ และพัฒนาเป็นผล เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 45-60 วัน ผลก็จะเริ่มแก่และสุก โดยเริ่มจากที่ เป็นผลสีเขียว สีขาว สีชมพู สีแดง และสีม่วงดำตามลำดับ ผลหม่อนจะทยอยสุกเนื่องจากมีการออกดอกไม่พร้อมกัน จึงทำให้มีระยะการเก็บเกี่ยวได้ยาว นานประมาณ 1 เดือน ต้นหม่อนจะให้ผลผลิตเต็มที่จนสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 2 ปีขึ้นไป
สำหรับการบังคับให้หม่อนติดผลนอกฤดูกาล
วิธีการบังคับต้นมัลเบอร์รี่ เพื่อให้ได้ผลผลิตลูกมัลเบอร์รี่ในระยะเวลาที่ต้องการ มีวิธีการดังนี้
1) ให้ทำการโน้มกิ่งที่ปลูกแบบทรงพุ่ม โดยโน้มกิ่งให้ปลายยอดขนานกับพื้น หรือโน้มลงพื้นดิน รูดใบหม่อนออกให้หมด พร้อมทั้งตัดยอดส่วนที่เป็นกิ่งสีเขียวออกยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ใช้เชือกผูกโยงติดกับหลักไม้ไผ่ ซึ่งปักไว้บนพื้นดินสำหรับยึดเชือกไว้
2) หลังการโน้มกิ่ง ผ่านไป 8-12 วัน ดอกจะแตกออกพร้อมใบ จากนั้นผลของลูกมัลเบอร์รี่ จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีขาว สีชมพู สี แดง และสีม่วงดำ ตามลำดับ โดยใช้เวลาประมาณ 45-60 วัน ผลจะเริ่มแก่และสุก สามารถเก็บไปรับประทานสดหรือนำไปแปรรูปได้มีระยะเวลาในการเก็บผลประมาณ 30 วันต่อต้น เพราะผลหม่อนจะทยอยสุก เนื่องจากออกดอกไม่พร้อมกัน เมื่อต้นหม่อนมีอายุตั้งแต่ 2 ปี เป็นต้นไปจะให้ผลผลิตผลหม่อนประมาณ 1.5-35 กิโลกรัม(ประมาณ 750-1,850 ผลต่อครั้งต่อต้น) เพียงพอต่อการบริโภคผลสดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิดที่ล้วนแล้วแต่ดีต่อร่างกาย ทั้งครอบครัวทุกวันตลอดทั้งปี
หมายเหตุ
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้น้ำในระยะที่หม่อนติดผลแล้ว (โดยปกติจะมีฝนหลงฤดูหรือฝนชะช่อมะม่วงผ่านเข้ามา จะทำให้ต้นหม่อนแตกตาติดดอก ถ้าไม่มีฝนหลงฤดู หลังโน้มกิ่ง รูดใบ ต้องให้น้ำกระตุ้นการแตกตาแทนน้ำฝน) หากขาดน้ำจะทำให้ผลฝ่อก่อนที่จะสุก หรือทำให้ผลมีขนาด เล็ก การตัดแต่งกิ่งและการดูแลรักษาทรงพุ่ม ตัดเฉพาะกิ่งแขนงที่ไม่สมบูรณ์และเป็นโรคทิ้ง เพื่อลดการสะสมโรคและแมลง